วันที่ ๑๒-๑๔ พฤษภาคม ๒๕๖๐ ที่ผ่านมา ท่านเจ้าภาพครอบครัวเมฆเสรีกุลและกัลยาณมิตร ได้นิมนต์พระอาจารย์ กิตติเชษฐ์ สิริวฑฺฒโก คณะสงฆ์ และแม่ชี มาจัดปฏิบัติธรรม คอร์ส “สปาจิต ชีวิตเปลี่ยน” ณ สุวนารีสอร์ท จ.ลพบุรี
เป็นเวลากว่า ๓ ปีที่หัวเรือใหญ่อย่างคุณสุวิศว์ – คุณจิตนา เมฆเสรีกุล แห่งเหล็กทรัพย์กรุ๊ป เป็นเจ้าภาพจัดปฏิบัติธรรม ณ สุวนารีสอร์ท แห่งนี้ จนกระทั่งสุวนารีสอร์ทกลายเป็นสถานที่พักกายพักใจ ของผู้ใฝ่หาธรรมะมากมาย ทั้งพนักงานในเครือบริษัท และบุคคลทั่วไป ในครั้งนี้สุวนารีสอร์ทได้มีผู้มาร่วมปฏิบัติธรรมกว่า ๑๓๐ ชีวิต
วันแรก ท่านเจ้าภาพเปิดบ้านให้ลงทะเบียนตั้งแต่เช้า เริ่มต้นด้วยการสวดมนต์เจริญสติ ร่วมกันตักบาตรพระสงฆ์ ถวายภัตตาหาร และพิจารณาอาหาร หลังจากนั้นผู้ปฏิบัติธรรมได้รับฟังธรรมะบรรยายโดยคุณแก้ว ศรีสกุล ฟูตระกูล และคุณปอ วรจรรย์ เที่ยงธรรม ผู้ซึ่งค้นพบสัจธรรมแห่งชีวิตว่า ไม่มีความสุขใดเทียบได้กับความสุขแห่งรสพระธรรม
วันที่สอง เริ่มต้นด้วยการสวดมนต์ เดินจงกรม เจริญสติเช่นเดียวกับวันแรก เมื่อถึงเวลาพระอาจารย์ กิตติเชษฐ์ สิริวฑฺฒโก ก็ได้เมตตาเทศนาธรรมให้แก่ผู้ปฏิบัติธรรมทุกท่าน เนื่องจากคอร์สนี้มีผู้ปฏิบัติธรรมมากมายล้วนแตกต่าง บ้างป่วย บ้างไม่สบายกายไม่สบายใจ พระอาจารย์จึงมุ่งเน้นไปที่การฝึกฝนจิตใจให้แก่ผู้ปฏิบัติ ทำให้ผู้ปฏิบัติเข้าใจถึงการมีสติรู้กาย รู้ใจ อยู่กับปัจจุบัน เข้าใจหลักธรรมคำสอนของพระพุทธองค์ด้วยการฝึกวิปัสสนากรรมฐาน เช่นเดียวกับผู้ที่มาบรรยายธรรมในวันนี้ คุณเปิ้ล ปารจรีย์ ปรมัตถ์เศรษฐ์ ผู้เคยป่วยด้วยโรคมะเร็ง และผ่านพ้นภาวะวิกฤติมาได้ด้วยธรรมะ และคุณแอน อายุพร ทองผิว ผู้เข้าถึงธรรมด้วยการหักดิบกับกิเลส
ในช่วงค่ำก็เป็นเวลาของชั่วโมง “พระในบ้าน” เป็นช่วงเวลาที่ผู้ปฏิบัติธรรมจะได้ร่วมขอขมากรรมต่อบิดามารดา ผู้มีพระคุณ พร้อมทั้งขออโหสิกรรมและแสดงความขอบคุณต่อท่านเจ้าภาพด้วย
วันสุดท้ายเป็นช่วงเวลาที่ผู้ปฏิบัติธรรมจะได้แสดงความรู้สึกต่อการได้มาวิปัสสนากรรมฐานในครั้งนี้ แม้จะมีเวลาในการบรรยายไม่มากนัก แต่ผู้ปฏิบัติหลายท่านก็บรรยายให้เข้าใจถึงความสุขจากการที่ได้มาปฏิบัติธรรมเป็นอย่างดี เช่นเดียวกับคุณสุธาทิพย์ และนันทวัน ชฎาวัฒน์ ที่ได้บรรยายไว้ว่า
“พระอาจารย์เมตตาสอนให้เข้าใจในการปฏิบัติจริงๆ เราจะเห็นว่าหลายๆคนสามารถทำได้ แล้วเราก็จะรู้ว่าความสุขทางใจประเสริฐที่สุด ไม่ว่าเราจะทุกข์เรื่องเล็กเรื่องใหญ่แค่ไหน มันอยู่ที่ใจเรา ทำอย่างไรให้ใจเรามีความสุข เราก็จะมีความสุขค่ะ”
จากการประเมินผลหลังจบคอร์ส ผู้เข้าร่วมปฏิบัติธรรมได้บอกเล่าถึงความประทับใจไว้ว่า
- รู้สึกดีขึ้น รับรู้ว่ายังมีความรัก ความเมตตาอยู่รอบตัว ขอเพียงแต่เปิดใจมองหา เกิดความสงบขึ้นในจิตใจ และพร้อมที่แบ่งปันความเมตตาต่อคนทั่วไป มีความอ่อนโยนเกิดขึ้น
- ใจเย็นขึ้น ความโกรธหายไป90% ใจเย็น เบา ว่าง มีความสุขเพิ่มขึ้นทุกวินาที ใจเบาวางได้ อภัยได้ มีแต่คนดี สิ่งดีๆเพราะมองแต่สิ่งดีๆ
- มีสติมากขึ้น เป็นคนใจเย็นมากขึ้น รู้จักการมีเมตตา และเห็นใจผู้อื่นมากขึ้น
- ประทับใจในการทำงาน จัดงาน ของคณะพระสงฆ์ แม่ชี และจิตอาสาทุกคน รู้สึกโชคดีที่ได้เจอผู้ปฏิบัติบำเพ็ญ ที่มีจิตใจที่เมตตาต่อกัน
- ประทับใจ พระอาจารย์ คณะพระสงฆ์ แม่ชี เจ้าภาพ จิตอาสา ผู้ปฏิบัติธรรม ผู้ให้บริการ มีความสุขมากขึ้น สถานที่ปฏิบัติสงบเงียบ อาหารอร่อย ที่พักสะดวก สบาย
- ความเป็นมิตรของเจ้าหน้าที่ทุกท่าน การเดินจงกรมที่ถูกต้องถูกวิธี และการผสมผสานธรรมะกับสื่อสมัยใหม่ ทำให้สามารถเรียนรู้ได้ง่าย และไม่น่าเบื่อหน่าย ที่สำคัญรู้สึกว่าจิตใจคลายความทุกข์ลงมาก
— สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ —